ความสุขของกะทิ
จากวรรณกรรมซีไรต์ที่กุมหัวใจคนทั้งประเทศ
สู่ผลงานภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจ
จากวรรณกรรมซีไรต์ที่กุมหัวใจคนทั้งประเทศ
สู่ผลงานภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจ

บทประพันธ์ที่ลัดฟ้าสู่ระดับโลกด้วยความประทับใจ
พร้อมแล้วที่จะมาสร้างชื่อให้จดจำอีกครั้ง
ในรูปแบบภาพยนตร์ที่ใคร ๆ ต่างรอคอย
จากปลายปากกาเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรก
ของ “งามพรรณ เวชชาชีวะ” เจ้าของบทประพันธ์ระดับซีไรต์
ครั้งแรกที่คุณจะได้รู้จัก “หนูน้อยกะทิ”
โดยกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์น้องใหม่ “ภาพยนตร์ชูใจ”
ที่เนรมิตจินตนาการจากตัวหนังสือสู่แผ่นฟิล์มอย่างสมจริง
ในภาพยนตร์เรื่อง “ความสุขของกะทิ”
ความสุขของกะทิ เป็นนวนิยายขนาดสั้น ของ งามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2549
ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 250,000 เล่ม และถูกตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 58 ครั้ง ทำให้ ความสุขของกะทิ เป็นหนังสือที่มีจำนวนผู้อ่านมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย รวมถึงยังโด่งดังจนได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์เพื่อแปลและจำหน่ายไปแล้ว 7 ภาษาใน 8 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย (ภาษาอังกฤษ), ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, สเปน (ภาษาคาตาโลเนีย), เกาหลี, ลาว
และที่ จีน และ ไต้หวัน (ภาษาจีน) เป็น 2 ประเทศล่าสุดที่เพิ่งขายลิขสิทธิ์เพื่อแปลและพิมพ์จำหน่ายต่อไป
รวมถึงเวอร์ชั่นไทย ก็เพิ่งจัดพิมพ์ “ฉบับปกแข็ง” เพื่อฉลองความสำเร็จของหนังสือเล่มนี้ไป
จากความประทับใจในหนังสือ ได้รับการถ่ายทอดสู่เรื่องราวบนแผ่นฟิล์มโดย “ภาพยนตร์ชูใจ”

ความสุขของกะทิ เล่าเรื่องราวของกะทิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบที่กำลังจะต้องสูญเสียแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม่รู้ตัวดีว่าไม่สามารถเลี้ยงดูกะทิได้ จึงฝากกะทิให้ตากับยายเลี้ยง กะทิเติบโตมาด้วยความรักของตาและยาย มีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังน้อยริมคลองอันอบอุ่น

ผู้เขียน เล่าเรื่องราวของกะทิอย่างเรียบง่าย เนรมิตบ้านริมคลองให้เป็นบ้านในฝัน ที่อบอวลด้วยบรรยากาศอันรื่นรมย์ของอดีต ฉายรายละเอียดสิ่งละอันพันละน้อย ของวิถีชีวิตที่สุขสงบของครอบครัวชนชั้นกลางระดับสูงให้ผู้อ่านประทับใจ
เสน่ห์ของนวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่อง ที่ค่อยๆ เผยปมปัญหาทีละน้อย ๆ อารมณ์สะเทือนใจจะค่อยๆ พัฒนาและดิ่งลึกในห้วงนึกคิดของผู้อ่าน นำพาให้ผู้อ่านอิ่มเอมกับรสแห่งความโศกอันเกษม ที่ได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ของชีวิตเล็กๆ ในโลกเล็กๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ไกลจากชีวิตจริงของเรา
คาแร็คเตอร์ตัวละคร

เด็กหญิงวัย 9 ปี ผูกพันกับแม่จากสิ่งต่าง ๆ ที่แม่ได้เตรียมไว้ให้ แม้จะแยกกันอยู่ตั้งแต่ 5 ขวบ กะทิเป็นเด็กช่างคิดกว่าวัยและเติบโตมากับตาและยาย นิสัยร่าเริงตามประสาเด็ก มีโลกทัศน์ในเชิงบวก และกล้าหาญเมื่อถึงวันที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของเธอ
แม่ (ณภัทร) รับบทโดย รัชนก แสงชูโต
ทนายสาว หลังจากหย่าขาดจากสามีแล้ว เธอจึงเลี้ยงลูกตามลำพังท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนที่คอยเป็นกำลังใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองป่วยหนักและไม่อาจดูแลลูกได้ จึงฝากลูกไว้กับพ่อแม่ และใช้เวลาที่เหลือเตรียมทุกสิ่งไว้ให้ลูกก่อนก่อนตัวเองต้องจากไป
ตา (พิทักษ์) รับบทโดย สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์
อดีตทนายนักเรียนนอก ที่หันหลังให้กับชีวิตเมืองกรุง และย้ายกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายในอยุธยากับภรรยาและกะทิ-หลานสาว ที่ลูกสาวคนเดียวฝากไว้ในความดูแล ทุกนาทีมีค่าเมื่อต้องประคับประคองชีวิตหนึ่งของเด็กน้อยที่เพิ่งเริ่มต้นให้ออกก้าวเดิน
ยาย (ลัดดา) รับบทโดย จารุวรรณ ปัญโญภาส
อดีตเลขานายใหญ่โรงแรมห้าดาว ยายของกะทิที่พอใจกับชีวิตเรียบง่าย รอยยิ้มของลัดดาหายไปเมื่อรับรู้ว่าลูกสาวคนเดียวมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และภาระความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูหลานสาวคนเดียว ทำให้ต้องใช้สติในการตัดสินใจ

หญิงสาวผู้เป็นเลขาฯ ให้ณภัทร และกลายเป็นมือขวาในทุกเรื่องให้เธอจนถึงวาระสุดท้าย แม้จะเสียใจเมื่อรู้ว่าณภัทรป่วยหนัก แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอได้รู้จักความเข้มแข็ง ความเสียสละ และรักแท้ที่แม่มีให้ลูก
เธอไม่อาจห้ามใจผูกพันกับ กันต์-เพื่อนรุ่นน้องของณภัทรได้ และรู้ว่ามีโอกาสน้อยเหลือเกินที่เขาจะมองมา แต่นั่นก็เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอที่ได้ใกล้ชิดเขาในช่วงเวลาหนึ่ง
หนุ่มโสด พูดน้อย เก็บตัว รุ่นน้องที่สนิทสนมกับณภัทรตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย กันต์ชื่นชมในความเก่งและยกให้ณภัทรเป็นผู้หญิงในดวงใจ เขาพร้อมเสียสละความสุขส่วนตัวหากจะทำให้เพื่อนรุ่นพี่จากไปโดยสงบ และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการดูแลกะทิ กันต์ไม่เคยมองหาหญิงคนไหน แม้จะมีสาวสวยน่ารักอยู่ใกล้ตัว จนเมื่อภาพความจริงคมชัดว่าชีวิตไม่ควรโดดเดี่ยวนัก เขาจึงถอนสายตาจากหญิงในดวงใจมายังหญิงใกล้ตัว

ลุงตอง รับบทโดย ไมเคิล เชาวนาศัย
ลุงตอง ลุงของกะทิ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับณภัทรแม่ของกะทิ โดยนิสัยเป็นคนใจดี รักพี่น้องและพวกพ้องมาก ผูกพันกับณภัทรมาตั้งแต่เล็ก รักสวยรักงาม ชอบจัดดอกไม้เป็นพิเศษ เป็นคนมีอารมณ์ขันหยิกแกมหยอก แต่ลุงตองมีสายตาแหลมคมและมองโลกในมุมปรัชญาเสมอ

พี่ทอง รับบทโดย นิธิศ โค้วสกุล
เด็กวัด ผู้มีนิสัยชอบช่วยผู้อื่นโดยธรรมชาติและโดยการอบรมของหลวงลุง ทองกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกะทิโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาได้ช่วยชีวิตกะทิไว้ในเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เขารับกะทิเป็นน้องตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็น และความรู้สึกนี้ไม่เคยแปรเปลี่ยนตามกาลเวลาเลย







ที่มาhttp://www.katimovie.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น