วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2552

EISA Awards 2008-2009

Olympus E3 คว้ารางวัลกล้องDSLR ยอดเยี่ยม EISA Awards 2008-2009



Nikon D3, AF-S 14-24 f/2.8G ED และ AF-S 24-70 f/2.8G ED ได้รับรางวัล EISA 2008-2009

Nikon Corporation มีความยินดีประกาศให้ทราบว่าผลการประกาศรางวัล EISA Awards (European Imaging and Sound Association) ประจำปี 2008-2009 ผลิตภัณฑ์ของ Nikon ได้รับรางวัล 2 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ กล้อง DSLR Nikon D3 ได้รับรางวัล European Professional Camera 2008-2009 และเลนส์ Nikon AF-S 14-24 f/2.8G ED และ AF-S 24-70 f/2.8G ED ได้รับรางวัลร่วมกัน European Professional Lens 2008-2009

ก่อนหน้านี้ Nikon D3 ยังได้รับรางวัล CAMERA GRAND PRIX 2008 จากสมาคมช่างภาพข่าวญี่ปุ่น และรางวัล Best D-SLR Professional ของยุโรปปี 2008 โดย Europe's Technical Image Press Association (TIPA) รวมกวาดรางวัลจากสถาบันหลักซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกมาแล้ว 3 สถาบัน นอกจากนี้ในปี 2008 ยังเป็นปีฉลองเลนส์ NIKKOR ครบรอบ 75 ปี นับตั้งแต่เริ่มผลิตเลนส์ตัวแรกในปี 1933 ประกอบกับเลนส์ NIKKOR ทั้งสองตัวนี้ได้รับรางวัลใหญ่ในปีเฉลิมฉลองนี้อีก

European Professional Camera 2008-2009 : Nikon D3


Nikon D3

Nikon D3 กล้อง DSLR ขนาดเซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรม (FX Format) ตัวแรกของ Nikon ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล ด้วยขนาดพิกเซลใหญ่กว่ากล้อง DSLR ทั่วไป จึงให้ไฟล์ภาพคุณภาพสุดยอด สัญญาณรบกวนต่ำแม้ถ่ายภาพที่ความไวแสงสูง ระบบโฟกัสและการทำงานรวดเร็ว ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็ว 9 ภาพต่อวินาทีที่ขนาดภาพ FX Format เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพแอ๊คชั่นและภาพกีฬา นับเป็นกล้องที่ช่างภาพระดับมืออาชีพทุกท่านต้องการเป็นเจ้าของ

European Professional Lens 2008-2009 : Nikon AF-S 14-24 f/2.8G ED และ AF-S 24-70 f/2.8G ED

จุด เด่นของเลนส์ทั้งสองตัวนี้ คือ ชิ้นเลนส์คุณภาพสูงระดับโปรและขนาดรูรับแสงกว้าง f/2.8 สำหรับใช้กับกล้องโปร DSLR FX Format ของ Nikon โดยเฉพาะเลนส์ AF-S 14-24 มม. จัดเป็นเลนส์ซูมสำหรับกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรมที่มีช่วงทางยาวโฟกัสน้อยที่สุด และคุณภาพเท่ากับเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสคงที่ ส่วนเลนส์ AF-S 24-70 มม. ประกอบด้วยชิ้นเลนส์คุณภาพสูง และได้รับการออกแบบระบบการทำงานที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นเมื่อเทียบกับบรรดาเลนส์ ซูมช่วงมุมกว้าง-มาตรฐานทั่วไป ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.38 ม. ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการซูมภาพสำหรับงานถ่ายภาพทั่วไป

ข้อมูลเกี่ยวกับ EISA และ รางวัล EISA
EISA เป็นสมาคมที่เกิดจากการรวมตัวกันของบรรณาธิการมัลติมีเดียที่มีขนาดใหญ่ที่ สุดในยุโรป ประกอบด้วยสมาชิกจากนิตยสารถ่ายภาพ, วีดีโอ และเครื่องเสียงจำนวน 50 ราย จากกลุ่มประเทศในยุโรป 19 ประเทศ โดยในแต่ละปีบรรณาธิการและนักเขียนด้านเทคนิคจากนิตยสารในกลุ่มสมาชิก จะเสนอชื่อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทกลุ่มหัวข้อที่วาง จำหน่ายในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า
*งานพิธีประกาศอย่างเป็นทางการจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี วันที่ 29 สิงหาคม 2008

* *ข้อมูลและรายละเอียดข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

แหล่งข้อมูลข่าว : http://www.nikon.com/about/news/2008/0818_eisa_01.htm

ข้อมูลของ EISA : http://www.eisa.eu/" http://www.eisa.eu/

mxw1 Sennheiser MX W1 หูฟัง by EPS IT Plus

Sennheiser MX W1 หูฟัง wireless ระบบ Stereo ตัวแรกของโลก ออกวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยบริษัท อีพีเอส ไอที พลัส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย Sennheiser MX W1 ให้พลังเสียงดั่งต้องมนต์สะกด ด้วยระบบเสียงระดับ Stereo

ส่ง สัญญาณด้วยระบบ Kleer wireless transmission เทคโนโลยีเฉพาะของ Sennheiser ที่ให้ระบบเสียงคมชัด สมจริงการันตีคุณภาพ ด้วย รางวัล EISA Award ที่ผลิตภัณฑ์หูฟัง Sennheiser รุ่น MX W1 wireless stereo headphone ตัวแรก ของโลก โดยสถาบัน The European Imaging and Sound Association ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “European Headphone 2008-2009” เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2008 ที่ผ่านมา MXW1 สามารถใช้งานได้กับ MP3, CD, DVD players และ iPod


สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-694-3161-7


inePix S100FS ได้รับรางวัล EISA Award 2008

กล้องดิจิตอลฟูจิฟิล์ม FinePix S100FS คว้ารางวัล

กล้องดิจิตอล Superzoom ยอดเยี่ยม จาก EISA AWARDS ประจำปี 2008-2009


บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำทุกเทคโนโลยีภาพ หลังเปิดตัวกล้องดิจิตอล FinePix S100FS ซึ่งได้รับรางวัล TIPA AWARDS 2008 “กล้องดิจิตอล Superzoom ยอดเยี่ยมประจำปี 2008” จากสถาบันชั้นนำ สมาคมสื่อมวลชนด้านการถ่ายภาพ (Technical Image Press Association) แล้ว


ล่าสุด กล้องดิจิตอล FinePix S100FS ยังได้คว้ารางวัล EISA AWARDSกล้องดิจิตอล Superzoom ยอดเยี่ยมจากยุโรป ประจำปี 2008-2009“ อีกครั้ง จากสถาบัน European Imaging and Sound Association (EISA) ได้ทำการพิสูจน์คุณภาพสุดยอด Superzoom ของกล้องดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพสูง กำลังซูมถึง 28-400 มม.


สำหรับ กล้องดิจิตอล FinePix S100FS ได้รับการตอบรับและมีกระแสความนิยมอย่างสูง เป็นกล้องดิจิตอลที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ โดยมีคุณสมบัติเด่น สามารถเลือกโหมดในการบันทึกภาพได้เสมือนการถ่ายภาพด้วยฟิล์มสี และสไลด์ Provia, Velvia, Astia (soft) และ Portrait มีความละเอียดสูงถึง 11.1 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชั่นการปรับค่าไดนามิกเรนจ์ (Wide Dynamic Range) ที่เก็บรายละเอียดความแตกต่างของสีในที่มืดและสว่างได้มากถึง 400% พร้อมกันนี้ FinePix S100FS ยังมีความโดดเด่นเกี่ยวกับระบบซูมภาพที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้เลนส์ฟูจินอน และมีกำลังซูมได้ถึง 28-400 มม. และนี่คืออีกหนึ่งความภูมิใจของฟูจิฟิล์ม ที่พัฒนาเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลให้ก้าวล้ำเหนือใครตลอด 10 ปีที่ผ่านมา


เจาะลึกเทคโนโลยีล่าสุด ฮาร์ดดิสก์ ผสมแฟลชเมมโมรี่

ฮาร์ดดิสก์ในเร็ววันนี้ แต่มันก็จะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการใช้งาน ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง James Morris ขออธิบายให้เราฟัง

ฮาร์ดดิสก์ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเรามา นานเกินกว่าที่ คุณจะนึกภาพออก การนำเอาวัสดุมาใช้เป็นวัตถุดิบครั้งแรกนั้นเริ่มต้นในช่วงยุค 1950 และรูปแบบ IBM Winchester ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ได้กำเนิดขึ้นในปี 1973 นับตั้งแต่วันนั้นเกจิอาจารย์ทั้งหลายได้ทำนายวันสิ้นชะตาของฮาร์ดดิสก์อยู่ หลายครั้ง ด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนหน่วยความจำแบบแฟลช (Flash memory) ในอุปกรณ์แบบพกพาทั้งหลาย ซึ่งทำให้มีราคาถูกลงกว่าเดิม เป็นเรื่องที่คาดการณ์กันไว้ว่าแหล่งเก็บข้อมูลแบบ Solid State Disk (SSD) จะมาแทนที่แหล่งเก็บข้อมูลแบบจักรกล-กลไกในเร็ววันนี้แน่นอน แต่ในขณะที่เรายังไม่พบสัญญาณใดๆ ส่อถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น มีเทคโนโลยีแบบใหม่กำลังก่อตัวอยู่ ซึ่งเป็นการใช้หน่วยความจำแบบแฟลชเป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งในการเก็บข้อมูล ของเครื่องพีซี

Samsung และ Seagate ได้ออกไดรฟ์ลูกผสมมาแล้ว ซึ่งมีหน่วยความจำแบบแฟลชติดตั้งเป็นบัฟเฟอร์ลงไปบนฮาร์ดดิสก์มาตรฐาน
เวลาการขับเคลื่อน
เทคโนโลยี ของฮาร์ดดิสก์ถูกหลอกหลอนด้วยปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Superparamagnetic ซึ่งเป็นสิ่งที่มากำหนดขนาดของอณูหรือขั้วอำนาจแม่เหล็กบนพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ นั้นๆ เมื่อขนาดดังกล่าวเล็กลงกว่าที่มันควรจะเป็น อุณหภูมิจะเพิ่มมากขึ้นจนสามารถเบี่ยงเบนขั้วแม่เหล็กบนจานดิสก์ให้ผิดไปได้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ฮาร์ดดิสก์นั้นเกิดความไร้เสถียรภาพ เมื่อวันเวลาผ่านไป ปรากฏการณ์ Superparamagnetic ก็ชะลอตัวลงเนื่องจากการพัฒนาวิธีการอ่านเขียนข้อมูลในแนวดิ่ง (perpendicular) ซึ่งเอื้อให้ขนาดของอณูอำนาจแม่เหล็กนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นและใส่บนไปบนพื้นผิว ของฮาร์ดดิสก์ในแนวตั้ง หากเป็นการอ่านเขียนข้อมูลในแนวนอนธรรมดา อณูจะวางเรียงตัวกันไปในแนวนั้น ซึ่งกินพื้นที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแล้ว การอ่านเขียนในแนวดิ่งเป็นเพียงแค่วิธีการเยื้อวันตายของฮาร์ดดิสก์ไปเท่า นั้นเอง

หน่วยความจำแบบแฟลชนั้นใช้พลังงานน้อยกว่าจานดิสก์ แบบกลไก ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว 5K160 ของ Hitachi สิ้นพลังงานเพียงแค่ 1.8W ขณะอ่านและเขียน และ 0.8W ขณะที่ไม่ได้ทำงานใดๆ ในทางกลับกัน ไดรฟ์แบบ SSD ของ Samsung ซึ่งใช้หน่วยความจำแฟลชใช้กำลังไฟเพียงแค่ 0.5W สำหรับการอ่านและเขียน และสุดแสนเล็กน้อยจนแทบจะมาตรมิได้เพียง 0.01W ขณะที่ไม่ได้ทำงานใดๆ


รู้จักกับ
ROBSON

เทคโนโลยี Robson ของ Intel จับเอาหน่วยความจำแบบแฟลชเชื่อมตรงกับเมนบอร์ด ผ่านสล็อต PCI Express ตรงไปส่วนชิปเซต Southbridge

นอก เหนือไปจากนั้น หน่วยความจำแบบแฟลชใช้เวลาการเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ Western Digital Raptor X ความเร็ว 10,000rpm ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์ SATA ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันนี้ ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลราวๆ 8ms แต่หน่วยความจำแบบแฟลชใช้เวลาการเข้าถึงข้อมูลต่ำกว่า 100 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าราวๆ 100 เท่าตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ฮาร์ดดิสก์แบบแฟลชนั้นให้ความเร็วในการใช้งานทั่วไปอย่างน้อยก็เร็วกกว่า ฮาร์ดดิสก์แบบธรรมดาถึง 25-50%

ข้อเสียของหน่วยความจำแบบแฟลชก็คือ ความจุข้อมูลยังคงน้อยอยู่ในเวลานี้ และมันก็มีราคาแพงเป็นอย่างมาก ไดรฟ์แบบ SSD ที่มีวางขายอยู่ในเวลานี้ก็คือ PQI ขนาด 2.5 นิ้ว DiskOnModule ความจุ 64GB ไดรฟ์ SSD ส่วนใหญ่นั้นมีความจุ 32GB หรือน้อยกว่า ด้วยราคา 93,500 บาท ซึ่งแพงกว่าฮาร์ดดิสก์แบบจานแม่เหล็กในความจุเท่าๆ กันถึง 25 เท่าตัว ไดรฟ์ SSD ยังคงไม่สามารถเอาชนะฮาร์ดดิสก์แบบจานแม่เหล็กได้ในเรื่องความเร็วการส่ง ข้อมูล Samsung กล่าวว่าไดรฟ์ SSD ของพวกเขานั้นให้ความเร็ว 57MB/วินาที ซึ่งก็แค่เร็วพอๆ กับฮาร์ดดิสก์ 2.5 นิ้วสำหรับโน้ตบุ๊ค แต่ช้ากว่าฮาร์ดดิสก์ SATA ขนาด 3.5 นิ้ว 7,200rpm ทั่วไปถึง 10MB/วินาที อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการเขียนข้อมูลยิ่งแย่กว่า เพียง 32MB/วินาที

จับใส่ให้ลงตัว
ไดรฟ์ แบบ SSD มีทั้งข้อดีและข้อเสียเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบกลไก ซึ่งทำให้เกิดแนวคิดแบบใหม่ขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่ใช้ทั้งสองแบบในเวลาเดียวกันล่ะ Samsung เป็นบริษัทรายแรกที่แถลงแนวคิดดังกล่าวและได้อธิบายเรื่องราวของ Hybrid Hard Disk (HHD) เมื่อปีที่แล้ว วิธีการก็คือการจับใช้หน่วยความจำแฟลช Samsung OneNAND 128MB ลงไปบนฮาร์ดดิสก์แบบปกติ หน่วยความจำแฟลชนั้นถูกใช้เป็นบัฟเฟอร์ เอาไว้ใช้เก็บข้อมูลสำหรับเขียนลงดิสก์จนกว่ามันจะเต็ม และจากนั้นข้อมูลก็จะถูกเขียนลงฮาร์ดดิสก์ ด้วยวิธีการเช่นนี้ ณ ความเร็วสูง ฮาร์ดดิสก์สามารถอยู่ในสถานะไม่ทำงานใดๆ หรือ Sleep Mode ได้นานมากขึ้นกว่าเดิม Samsung อ้างว่าสิ่งนี้จะช่วยลดการบริโภคพลังงานลงราวๆ 9% ทางด้าน Seagate Momentus 5400 PSD ก็ใช้หลักการคล้ายๆ กัน แต่ว่ามีจำนวนหน่วยความจำแฟลชมากกว่าถึงสองเท่า (256MB) Seagate ใส่ความจำมากกว่าซึ่งทำให้การบริโภคพลังงานน้อยลงกว่าเป็นเท่าตัว

เมื่อ หน่วยความจำแบบแฟลชสามารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้พลังงาน มันจึงเป็นแหล่งที่ดีสำหรับการเก็บไฟล์ Hibernation (คือโหมดปิดเครื่องลักษณะหนึ่ง) Seagate แจ้งว่าเทคโนโลยีของพวกเขาสามารถทำให้เครื่องกลับมาสู่สถานะการทำงานปกติ ด้วยความเร็วมากกว่าเดิม 20% การใช้หน่วยความจำแฟลชเป็นบัฟเฟอร์สามารถยืดอายุการใช้งานของไดรฟ์ได้ เพราะโดยปกติแล้วอายุการใช้งานของฮาร์ดดิสก์จะถูกนับด้วยจำนวนชั่วโมงการใช้ งานสูงสุดที่ทำได้ (Mean time before failure)

Samsung ได้สร้างแหล่งเก็บข้อมูลแบบ Solid State ซึ่งใช้หน่วยความจำแบบแฟลช ที่มีความจุสูงถึง 32GB
นอก เหนือไปจากการที่ Samsung เป็นรายแรกที่แถลงเทคโนโลยี HHD มันก็ยังเป็นการพัฒนาร่วมกับ Microsoft ด้วย อันที่จริงเทคโนโลยีสองตัวใน Windows Vista จะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ReadyDrive คือคุณสมบัติการรองรับ Hybrid drive ใน Windows Vista และไดรเวอร์คือสิ่งจำเป็นที่จะจัดการการทำงานของไดรฟ์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี Microsoft ได้พัฒนาไปสู่สิ่งที่เหนือความคาดหมายในทำนองของลูกผสม ด้วยความแพร่หลายของ USB แฟลชไดรฟ์ Windows Vista มาพร้อมกับ ReadyBoost ซึ่งใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ทันที แทนที่จะต้องมีหน่วยความจำแฟลชติดลงไปกับตัวฮาร์ดดิสก์ ReadyBoost สามารถให้คุณใช้แฟลชไดรฟ์ทั่วไปได้ทันที ในเดือนกรกฎาคม Samsung ได้ออกไดรฟ์ 4GB ATA SSD ซึ่งตั้งเป้าไว้ใช้กับ ReadyBoost โดยเฉพาะ

บาง ทีรูปแบบของแนวคิดลูกผสมดังกล่าวอีกอย่างหนึ่งที่เป็นไปได้ในทาง ปฏิบัติมากกว่าใครอื่นก็คือแนวคิดจาก Intel ที่เรียกว่า Robson แทนที่จะต้องมุ่งพึ่งพาการใช้ฮาร์ดดิสก์หรือหน่วยความจำแฟลชของบริษัทอื่นใด มาร่วมทำงานด้วยกัน Robson ใช้การจัดวางลงไปตรงๆ บนเมนบอร์ดเลย เชื่อมต่อกับส่วน Southbridge ผ่าน PCI Express ด้วยวิธีเช่นนั้น ฮาร์ดดิสก์ใดๆ ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์

ประโยชน์ ของ ReadyDrive ก็คือเรื่องของการบริโภคพลังงาน ดังนั้นมันก็จะมุ่งไปที่ตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา แต่ด้วยระบบ ReadyBoost พร้อมความจุ 4GB ให้ใช้กันแล้วในวันนี้ แนวคิดลูกผสมดังกล่าวก็ดูเหมือนว่าจะนิรนัยให้ประจักษ์แล้วว่าเครื่องเดสก์ ท็อปก็รับอานิสงส์ด้วยไม่ต่างกัน ดังนั้น กว่า SSD จะมาแทนที่ HDD นั้นคงต้องถูกทำนายว่าเป็นเวลาอีกยาวนั้น และที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือการเข้ามามีส่วนร่วมกับวิถีใช้งานสามัญของเรา ด้วยกายลักษณ์ในบริบทที่ล้ำกว่าที่เราคิดไว้ตอนแรก

แนวโน้มสุดยอดเทคโนโลยีซัพพลายเชน 10 อันดับแรก


พิมพ์
Imageจะ เห็นได้ ว่าน้อยคนนัก ที่จะหยิบนิตยสารด้านธุรกิจ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ขึ้นมา โดยไม่พบหัวข้อเกี่ยวกับ การเติบโตทางเทคโนโลยีการเคลื่อนที่และไร้สาย และดูเหมือนว่า คนเราไม่สามารถอยู่ห่าง พีดีเอ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ประมวลผลและสื่อสารอื่นๆ ไปได้ อย่างน้อยเมื่อพิจารณาจากอัตราการใช้ และแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

แต่ สิ่งที่ขาดหายไปในกรณีนี้คือ ข้อมูลที่ใช้ในการอธิบาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการนำ เทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้แล้ว สามารถปรับปรุงองค์กร และการทำงานของซัพพลายเชนได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่มีการเติบโต อย่างเทคโนโลยีการประมวลผลด้านการระบุแบบเคลื่อนที่ การพิมพ์ และจีพีเอส ไม่ได้อธิบายไว้ว่า ผู้ให้บริการที่นำเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้มาทำงานเชื่อมโยงกัน สามารถประหยัดเวลาได้อย่างน้อยกว่า 40 นาที ต่อคนงาน 1 คน ต่อวัน และประหยัดได้มากถึง 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

INTERMEC

บริษัท อินเตอร์เมค ได้เข้ามาช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ให้ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดนี้ ในด้านการผลิต จัดจำหน่าย การบริการ ภาคสนาม และสภาพแวดล้อมในระบบซัพพลายเชนอื่นๆ เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว โดยบริษัท อินเตอร์เมคได้บุกเบิกเทคโนโลยีหลายอย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน อาทิ เทคโนโลยีการจับข้อมูล การประมวลผลเคลื่อนที่ และการ สื่อสารไร้สาย และยังคงมุ่งมั่น ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิด กับผู้นำด้านเครือข่ายไร้สาย และการบริการข้อมูล ซอฟต์แวร์องค์กร และการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ โดยมีประสบการณ์ร่วม กับลูกค้าหลายพันรายทั่วโลก บริษัท อินเตอร์เมค สามารถเข้าถึงนักวิเคราะห์ นักวิจัย มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้นำด้านไอที และผู้จัดหาเครือข่ายโซลูชั่นที่ต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัท อินเตอร์เมคจึงได้จัดอันดับ 10 สุดยอด แนวโน้มเทคโนโลยี ในด้านสภาพแวดล้อมการดำเนินงานแบบเคลื่อนที่ อุตสาหกรรม และซัพพลายเชน สำหรับปี 2550 - 2551 บทความนี้ จะบ่งบอกถึงแนวโน้มดังกล่าว และยังอธิบายถึงวิธีการประยุกต์ใช้ การดำเนินงาน ของซัพพลายเชน และเสนอผลลัพธ์ที่ได้จากผู้ใช้ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี เพื่อปรับปรุงธุรกิจของตนเอง

10 สุดยอดเทคโนโลยีที่มีผลต่อ Supply Chain

นี่ คือสุดยอดเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มใน 10 อันดับแรก ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินการ ด้านซัพพลายเชน การขยายการผลิต การจัดจำหน่าย การค้าปลีก และการบริการระยะไกล
  1. Connectivity: การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย 802.11 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ บลูทูธ
  2. Advanced Wireless (Voice & GPS) การสื่อสารด้วยเสียงและจีพีเอสเชื่อมรวมไปยังคอมพิวเตอร์ที่มีความทนทาน
  3. Speech recognition: การสั่งงาน ด้วยเสียง
  4. Digital imaging: การประมวลผลภาพดิจิตอล
  5. Portable printing: การพิมพ์แบบเคลื่อนที่
  6. 2D & other bar coding advances: ความก้าวหน้าของระบบบาร์โค้ด 2 มิติ และ ระบบบาร์โค้ดอื่นๆ
  7. RFID: อาร์เอฟไอดี
  8. RTLS: ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง
  9. Remote management: การจัดการทางไกล
  10. Wireless and device security: ความปลอดภัยของ อุปกรณ์และเครือข่ายไร้สาย
คุณ น่าจะพอคุ้นเคย บรายการเทคโนโลยีข้างต้นมาบ้างแล้ว แต่บางทีอาจไม่ใช่การพัฒนา ละแนวโน้มล่าสุด ตัวอย่างเช่น คุณรู้หรือไม่ว่าแอพพลิเคชั่นใดๆ สามารถปรับเปลี่ยนให้รับ สัญญาณเสียงได้ เนื่องจากการพัฒนาล่าสุดของเทคโนโลยี การเลียนแบบการจดจำเสียง คุณรู้หรือไม่ว่า บลูทูธ 802.11b/g การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจีพีเอสสามารถมีอยู่ในอุปกรณ์แบบพกพาเพียงชิ้นเดียว คุณ รู้หรือไม่ว่าการปรับปรุงออพติก สามารถอ่านบาร์โค้ด 2 มิติที่อยู่บนกระดาษได้ ในระยะที่ไกลขึ้น (50 ฟุตขึ้นไป) มากกว่าบาร์โค้ด 1 มิติ อยู่บนฉลากสะท้อนกลับ กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีเหล่านี้ และการพัฒนาอื่นๆ เพื่อช่วยในการผลิต การจัดจำหน่าย การบริการ และการดำเนินการด้านซัพพลายเชนอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Connectivity: การเชื่อมต่อ

การ เชื่อมต่อไร้ สายมีอยู่หลายรูปแบบ ได้แก่ บลูทูธสำหรับระบบเครือข่ายส่วนบุคคล ระบบไร้สาย 802.11 สำหรับระบบเครือข่ายแลนไร้สาย และระบบเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายในพื้นที่กว้างไกล ของมือถือสำหรับการสื่อสารเสียงและข้อมูล เป็นสิ่งที่เห็นได้เป็นส่วนใหญ่ และขาดไม่ได้ สำหรับการดำเนินธุรกิจในด้านการปฏิบัติการเฉพาะหลายๆ อย่าง แม้ว่านวัตกรรมและการนำไปใช้ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ สิ่งที่ใหม่และสำคัญ คือ เทคโนโลยีเหล่านี้ จะถูกนำไปรวมอยู่ในอุปกรณ์ชิ้นเดียว และให้ฟังก์ชั่นการทำงาน ของระบบไร้สายหลายรูปแบบ นำมาซึ่งความสะดวกสบาย ทั้งกับผู้ใช้งานเอง และเจ้าหน้าที่ไอทีที่รับผิดชอบด้านการจัดการเครื่องมือ เคลื่อนที่ดังกล่าว

INTERMEC

สมาร์ทโฟน มีจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายในการเข้าถึงเสียงและข้อมูลได้ดี อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อจำกัดอย่างมาก ในการส่งมอบ การบริการภาคสนาม และการ ดำเนินการแบบเคลื่อนที่ ของซัพพลายเชนอื่นๆ เนื่องจากจอคอมพิวเตอร์ และส่วนติดต่อ (อินเตอร์เฟส) ไม่เหมาะกับแอพพลิเคชั่นขององค์กร และตัวอุปกรณ์เองไม่มีความทนทานเพียงพอ สำหรับใช้งานในสภาวะแวดล้อม เช่นนี้ทุกวัน สำหรับการดำเนินการ ที่ต้องเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมาก หรือปริมาณการทำธุรกรรมที่มหาศาลนั้น เดิมบริษัทต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์พกพา ที่มีความทนทาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อถือได้ และประสิทธิภาพใน การทำงานที่ต้องการ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ขาดคุณสมบัติด้านการเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่

Advanced Wireless: Voice & GPS ระบบไร้สายขั้นสูง: เสียงและจีพีเอส

ปัจจุบัน บริษัทผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำ ได้ผลิตคอมพิวเตอร์พกพาที่มีความทนทาน สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง ทำให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล สื่อสารข้อมูล และทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ด้วย โดยทั้งหมดนี้ รวมอยู่ในอุปกรณ์ ชิ้นเดียวกัน ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลในการแยกเก็บรักษาโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ออกจากกัน หรือไม่มีความจำเป็นที่ต้องเปิดปิด กลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ เพื่อให้งานประจำวันสำเร็จลงได้ การรวมข้อมูลและเสียง เข้าไปใน อุปกรณ์ชิ้นเดียว ที่รวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันนั้น สามารถลดผู้ดูแลระบบ ของอุปกรณ์ได้เป็นจำนวนกว่าครึ่งของจำนวนทั้งหมด ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จะเห็นได้ว่าบ่อยครั้ง ที่บลูทูธถูกนำมาใช้ร่วมกับ อุปกรณ์เหล่านี้ โดยใช้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่อยู่รอบๆ ซึ่งนั่นทำให้เกิดการลดต้นทุนรวมการเป็นเจ้าของ ลงได้อีก จากการกำจัดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อม และการเปลี่ยนสายเคเบิล

INTERMEC

การ เชื่อมรวมการติดต่อเข้าด้วยกัน ยังคงดำเนินต่อไปด้วยการนำ ระบบสื่อสารจีพีเอส มาใช้กับคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น ในรุ่น CN 3 ของบริษัทอินเตอร์เมค ประกอบไปด้วยระบบเสียง และข้อมูลไร้สายครอบคลุมพื้นที่กว้างไกล เชื่อมต่อด้วย 802.11 บลูทูธ และจีพีเอส ทั้งหมด บรรจุอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ที่สามารถใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อได้

กรณีตัวอย่าง

สแตนลีย์ สตีมเมอร์ ธุรกิจแฟรนไชส์ทำความสะอาดพรม ดำเนินงานโดยอัตโนมัติ ใน 2 สาขาด้วยคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ที่เชื่อมต่อกับระบบสื่อสารไร้สายบริเวณกว้าง จีพีเอส และเครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก สำหรับดำเนินการการชำระด้วยบัตรเครดิตในเวลาจริง เมื่อการให้บริการเสร็จสิ้น การส่งเอกสาร เคลื่อนที่ด้วยระบบจีพีเอส และการสื่อสารสองทางในเวลาจริง ทำให้สแตนลีย์ สตีมเมอร์ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้เพียงพอ โดยไม่ต้องจ้างพนักงานส่งเอกสารประจำในแต่ละสาขา และในแต่ละสถานที่นั้น สามารถ ประหยัดได้มากถึง 300 - 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ และทั้ง 2 สาขาสามารถประหยัดเวลา ที่ต้องใช้ในการดำเนินการด้านเอกสารได้เป็นอย่างมาก

และ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลง ของระบบสื่อสารไร้สายบริเวณ กว้าง (ได้แก่ จีพีอาร์เอส จีเอสเอ็ม ซีดีเอ็มเอ และเทคโนโลยีอื่นๆ) และมากไปกว่าการวางแผนข้อมูลทั่วไป นวัตกรรมการประมวลผลเช่นนี้ สามารถหาซื้อได้ และใช้งานได้จริง กับหลายบริษัท เช่น การนำไปใช้ในการเข้าถึง ระบบข้อมูล ในเวลาจริงสำหรับพนักงานส่งของ พนักงานขาย และบุคลากรที่ให้บริการ รวมไปถึงผู้ตรวจสอบและบุคลากรอื่นๆ

Speech recognition: การสั่งงานด้วยเสียง

เทคโนโลยี ด้านเสียงอีกอย่าง สำหรับการดำเนินการด้านซัพพลายเชน คือ การสั่งงานด้วยเสียงพูด สำหรับการป้อนข้อมูลแบบแฮนด์ฟรี ซึ่งกำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรม และมีการนำไปใช้ การสั่งงานด้วยเสียงพูด สามารถช่วยระบบการผลิตได้ โดย ผู้ใช้ไม่ต้องมัวแต่เพ่งมอง ที่จอคอมพิวเตอร์อีกต่อไป จากแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นระบบเปิด และการปฏิบัติการ ที่เป็นสากลของการสังเคราะห์เสียง ความสามารถในการจดจำเสียงพูดขณะนี้ สามารถใช้ได้ กับซอฟต์แวร์หลากหลายจำนวนมาก ประกอบด้วยการจัดการคลังสินค้า การขนและการเก็บเข้าที่ สินค้าคงคลัง การตรวจสอบ การควบคุมคุณภาพ และการนำไปใช้ในด้านอื่นๆ การบูรณาการที่ง่ายดายนี้ เป็นไปได้ด้วย การ พัฒนาเทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียง ที่ใช้การจำลองจอเทอร์มินัล (Terminal Emulation: TE) ซึ่งเป็นการขจัดความต้องการใช้เซิร์ฟเวอร์ สำหรับเสียงแยกต่างหาก และส่วนติดต่อเฉพาะระหว่างระบบเสียงพูด และ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ เทคโนโลยีแบบทีอีนี้ สามารถสังเคราะห์เสียง เพื่อลดความจำเป็น ที่จะต้องเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ และการสั่งงานด้วยเสียงพูดนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับการป้อนข้อมูลได้อย่างแท้จริง ไม่ ใช่แอพพลิเคชั่นแยกส่วน แต่ต้องได้รับการจัดการอย่างบูรณาการ การใช้การจำลองเทอร์มินอลสำหรับจัดรูปแบบ และดำเนินการป้อนและส่งออกเสียง ช่วยให้ข้อมูลไหลผ่าน ทั้งจากและเข้าสู่แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ ราวกับว่า เป็นการป้อนข้อมูลจากการสแกนบาร์โค้ด การกรอกข้อมูล หรือไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม ที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ ระบบสั่งงานด้วยเสียง ที่ใช้การจำลองเทอร์มินัล สามารถทำงานร่วมกับระบบการจัดการ ของคลัง สินค้าได้ในเวลาจริง ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่สำคัญเรื่องหนึ่ง จากเทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียงที่มีอยู่เดิม

INTERMEC

การ สั่งงานด้วยเสียงแต่เดิมนั้น มักจะใช้สนับสนุนการปฏิบัติการ โดยรวมชั้นสูงที่ผู้วางระบบให้ความสำคัญ กับเวลาและการผลิตมากกว่าความแม่นยำ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในการคัดเลือก จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่ป้อนจากบาร์โค้ด จะมีความแม่นยำมากกว่า และการป้อนเสียงโดยทั่วไปนั้น เป็นที่ยอมรับกันว่า สามารถส่งเสริมกระบวนการผลิตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพนักงานสามารถใช้มือ กับสายตา ในการคัดเลือกได้ โดยไม่ต้องมัวแต่จ้องมองจอคอมพิวเตอร์ ใช้คีย์บอร์ด และเครื่องสแกน ในการดำเนินงานแล้วเสร็จ โดยมีการวิเคราะห์ เกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าการป้อน ข้อมูลด้วยบาร์โค้ดนั้น มีความแม่นยำมากกว่าการใช้เสียง (99% เทียบกับ 95%) แต่ในระบบบาร์โค้ด ต้องใช้พนักงานประจำ 26 ตำแหน่ง (เอฟทีอี) เพื่อจัดการปริมาณการทำธุรกรรมที่เท่ากัน

กรณีตัวอย่าง

Lighthouse for the Blind เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในรัฐเซนต์หลุยส์ และเป็นสถานที่ฝึกและจ้างพนักงาน ที่พิการทางสายตา สามารถปรับปรุงคลังสินค้าได้ถึง 25% ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบนวัตกรรมนี้ ประกอบด้วย ระบบยืนยันเสียงใช้คัดเลือกสิ่งของ สามารถช่วยพนักงาน ที่พิการทางสายตาเลือกสินค้าตามลำดับ ได้อย่างถูกต้อง

เมื่อ ทำการวิเคราะห์ระบบ แบบผสมผสาน ที่ใช้การสั่งงานด้วยเสียงโดยใช้ทีอี พบว่ามีความแม่นยำ เทียบเท่ากับการป้อนข้อมูลด้วยบาร์โค้ด ขณะที่ใช้พนักงานน้อยกว่าถึง 22 เอฟทีอี แสดงให้เห็นว่า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อคำนึงถึงผลของ ความผิดพลาดในการตรวจสอบ

Digital imaging: การประมวลผลภาพดิจิตอล

เช่น เดียวกับเสียง ภาพดิจิตอลเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่ง ที่ลูกค้ามีความคุ้นเคย ซึ่งในขณะนี้ได้เป็นพื้นฐาน ในแอพพลิเคชั่น และอุปกรณ์การประมวลผลเคลื่อนที่ขององค์กร บริษัทขนส่งและกระจายสินค้า ใช้กล้องดิจิตอลเชื่อมรวมกับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ดังนั้นพนักงานขับรถ สามารถบันทึกข้อมูลการจัดส่ง จัดเก็บใบเสร็จที่ประทับตรา และราย ละเอียดของเงื่อนไข ที่ใช้ในการป้องกันการส่งสินค้า

INTERMEC

กรณีตัวอย่าง

บริษัท มิชชั่นฟูดส์ คือผู้ผลิตอาหารแม็กซิโก รายใหญ่ของโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ส่งขายไปทั่วสหรัฐ โดยดำเนินการแบบขายตรง ที่ส่งให้ถึงที่สำหรับ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีก บริษัท มิชชั่นฟูดส์ ได้เปลี่ยนรูปแบบจากการการออกใบเสร็จด้วยมือ มาเป็นการใช้คอมพิวเตอร์มือถือ และพิมพ์สำเนาใบเสร็จด้วยเครื่องพิมพ์พกพา รายการบันทึกของใบเสร็จ จะถูกส่งไปยัง สำนักงานใหญ่ของมิชชั่นฟูดส์ในเวลาจริง ผ่านระบบเครือข่ายไร้สายบริเวณกว้าง การดำเนินการดังกล่าว ช่วยขจัดขั้นตอนการสแกนกระดาษใบเสร็จหลายๆ พันใบ บริษัทหวังที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายต่อปี เป็นจำนวนเลข 5 หลักในการเปลี่ยนรูปแบบของใบเสร็จ โดยพนักงานขับรถใช้เครื่องพิมพ์ ที่กะทัดรัดพกพาได้ ทำให้ประหยัดเวลา และความเหนื่อยล้า ที่ต้องปีนเข้าและออกจากรถเพื่อทำการพิมพ์ นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นดังกล่าว ยังแสดง ให้เห็นถึงคุณค่าของการเชื่อมรวมกัน ของระบบเชื่อมต่อไร้สาย ได้แก่ คอมพิวเตอร์พกพา ที่สื่อสารกับเครื่องพิมพ์เคลื่อนที่ ผ่านทางบลูทูธ ส่งข้อมูลใบเสร็จ ด้วยจีพีอาร์เอส และใช้เครือข่ายแลนไร้สาย ที่ศูนย์กระจาย สินค้า

ช่างที่มีความชำนาญ ใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบการให้การบริการ โดยแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ประกอบด้วยการจับภาพ การวางสินค้าบนชั้นวาง และตรวจสอบการยินยอมให้มีการส่งเสริมการขาย เก็บ สะสมข้อมูลที่มีการแข่งขัน การออกเอกสารจากผู้ตรวจสอบ เก็บสะสมหลักฐานรายงานการเกิดอุบัติเหตุ และบันทึกความเสียหาย และเงื่อนไขการใช้สำหรับการเรียกร้องค่าชดเชยด้านการประกัน

Portable printing: การพิมพ์แบบเคลื่อนที่

INTERMEC

มี การใช้งานเครื่องพิมพ์ แบบพกพา ที่ทนทานเป็นประจำ เพื่อให้ได้เอกสารอ้างอิง เมื่อต้องการใช้งาน สำหรับการใช้งานทั่วไป ได้แก่ การจัดเตรียมใบส่งสินค้าที่มีการลงนาม ใบสั่งซื้อ ใบสั่งงาน และรายการการตรวจสอบ การใช้เครื่องพิมพ์ และ คอมพิวเตอร์แบบพกพาร่วมกัน จะทำให้ลูกค้าสามารถมีเอกสารที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการขาย บริการ และการส่งมอบสินค้า ขณะที่การสร้างระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้องค์กรไม่ต้องดำเนินการด้านงานเอกสาร เครื่องพิมพ์พกพายังคงเป็นส่วนหนึ่ง ของอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั้งหมด ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยการใช้งานในรูปแบบเดิมนั้น จะเน้นในงานด้านการบริการภาคสนาม และการกระจายสินค้า แต่การนำมาใช้ในคลังสินค้า และโรงงาน ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพิมพ์ ที่ใช้ร่วมกับรถโฟล์คลิฟท์สำหรับการคัดเลือก เก็บเข้าที่ การทำป้ายผนึกการส่งสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ โดยการพิมพ์แบบเคลื่อนที่ ช่วยประหยัดแรงงานในสภาพ แวดล้อมอุตสาหกรรม โดยลดจำนวนพนักงาน ที่จะต้องเดินทางไปยังตำแหน่งที่ใช้พิมพ์ป้ายผนึก ตั๋ว หรือคอยป้อนรายการสินค้า และผลลัพธ์อื่นๆ ได้

2D & other bar coding advances: บาร์โค้ด 2 มิติ

บาร์ โค้ด 2 มิติ เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่นิยมในการใช้งาน โดยสามารถใช้แสดงข้อมูลจำนวนมากได้ ในพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม 2 มิติยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีตลาดเฉพาะ เนื่องจาก ในสภาพแวดล้อมการทำงานจำนวนมาก การอ่านสัญลักษณ์ดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการปรับปรุงความสามารถในการอ่านบาร์โค้ด 2 มิติให้ดีขึ้น และยังเกิดเทคโนโลยีปรับภาพอัตโนมัติ ซึ่งช่วย ให้การใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติเป็นไปอย่างแพร่หลาย ในด้านการจัดการสินค้า การตรวจสอบย้อนกลับ การบำรุงรักษาและซ่อมแซม และการดำเนินการอื่นๆ

INTERMEC

องค์กร ส่วนใหญ่ ต้องการใช้งานบาร์โค้ด ที่มีการแสดงสัญลักษณ์ ขนาดสัญลักษณ์ และข้อมูลเข้ารหัสที่แตกต่างกันจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น การแสดงสัญลักษณ์ ในรูปแนวเส้นตรงขนาดใหญ่ สำหรับป้ายผนึกระบุชั้นวางของคลังสินค้า ป้ายผนึกขนาด 4 นิ้วที่มีแถบบาร์โค้ด เป็นป้ายผนึก สำหรับการส่งสินค้าปกติ และบาร์โค้ด 2 มิติ ยังเหมาะสำหรับการติดตามงาน ที่ดำเนินอยู่ตลอด ทั้งระบุอายุการใช้งาน และการตรวจสอบย้อนกลับได้ จะเห็นได้ว่าเครื่องอ่านดั้งเดิม ไม่สามารถจดจำป้ายผนึกที่แปะอยู่กับชั้น วางที่อยู่ไกลถึง 50 ฟุต รวมทั้งบาร์โค้ดที่แสดงในรูป 2 มิติด้วย การพกเครื่องอ่านแยกกันสองชิ้น เพื่อให้ทำงานทั้งสองอย่างได้นั้น เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น องค์กรต่างๆ จึงมักเลือกใช้แอพพลิเคชั่นบาร์โค้ด เส้นตรงทั่วไปมากกว่า ขณะนี้ ผู้ใช้ไม่ต้องได้อย่างเสียอย่างอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น กลไกสแกนปรับโฟกัสอัตโนมัติ EX25 ของบริษัท อินเตอร์เมคเป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ดเครื่องแรก ที่สามารถอ่านบาร์โค้ดแบบเป็นทางยาวและ 2 มิติ ได้ไกลถึง 50 ฟุต โดยให้ความแม่นยำเหมือนในระยะ 6 นิ้ว การพัฒนาเพิ่มเติม ในเทคโนโลยีการให้แสงสว่าง ช่วยให้สามารถอ่านบาร์โค้ด ในสภาพแวดล้อมที่มืดทึบ ซึ่งไม่สามารถอ่านได้มาก่อน การพัฒนาเหล่านี้ ทำให้สามารถใช้งาน บาร์โค้ดได้ ในสภาพแวดล้อมที่ก่อนหน้านี้คิดว่า ต้องใช้อาร์เอฟไอดี หรือการจับข้อมูลอัตโนมัติ การใช้ Data Matrix และการแสดงสัญลักษณ์แบบ 2 มิติ กำลังเติบโตอย่างมาก ในด้านการระบุสินค้าถาวร การจัดลำดับก่อน หลังของผลิตภัณฑ์ และการตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการสแกน ร่วมกับกระบวนการให้รหัสทุกชนิด ในหลายระยะ บริษัทสามารถสร้างคุณลักษณะการมองเห็นขั้นสูง และการตรวจสอบย้อนกลับเข้าสู่การ ผลิต รายการสินค้า และการดำเนินการกระจายสินค้าของพวกเขาได้

กรณีตัวอย่าง

“สำหรับ ผู้ใช้ระดับล่าง การมีเครื่องสแกนเครื่องเดียว ที่สามารถอ่านโค้ดต่างๆ ได้ ช่วยปรับปรุงความสามารถในการผลิต ได้อย่างมาก สำหรับแผนกไอที EX25 ลดจำนวนอุปกรณ์จับข้อมูลจำนวนมากที่ต้องใช้ ลดการฝึกอบรม และต้นทุนสนับสนุนได้” สตีฟ แบงเกอร์ /เออาร์ซี แอดไวซอรี่ กรุ๊ป

RFID: อาร์เอฟไอดี

อาร์ เอฟไอดียังใช้งานได้ดีในปัจจุบัน โดยเฉพาะในองค์กรธุรกิจ ที่ต้องจัดการสินทรัพย์ และการดำเนินการด้านซัพพลายเชน ตัวอย่างเช่น กองทัพเรือสหรัฐใ ช้การป้อนข้อมูล อาร์เอฟไอดี เพื่อลดเวลาในกระบวนการคลังสินค้าที่สำคัญ ได้ประมาณ 98% โดยในส่วนลอจิสติก TNT สามารถลดเวลาการตรวจสอบปริมาณรถบรรทุกได้ 24% ด้วยการใช้ระบบอาร์เอฟไอดีบันทึกสินค้า ที่อยู่บนรถพ่วง โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ บริษัทอื่นๆ นับร้อยแห่งทั่วโลก กำลังนำอาร์เอฟไอดีมาช่วย ในกระบวนการจัดส่งสินค้า การรับ และแอพพลิเคชั่นการรู้ความเป็นไปของคลังสินค้า สำหรับกรณีศึกษาเกี่ยวกับระบบนี้ และตัวอย่างการ ใช้งานขององค์กรอื่นๆ กรุณาดูที่สมุดปกขาวในเว็บไซต์ www.intermec.com

INTERMEC

สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง การนำอาร์เอฟไอดีมาใช้ สำหรับด้านสินค้าคงคลัง คลังสินค้า และการดำเนินการกระจายสินค้า คือการใช้เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี ที่ติดกับยานพาหนะ และเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีแบบเคลื่อนที่อื่นๆ เพื่อขยายหรือแทนที่รุ่นที่ใช้ติดตั้งอยู่กับที่ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบเคลื่อนที่ บริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อ ติตตั้ง และดูแลรักษาเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี ที่ติดตั้งแยกส่วนในแต่ละทางเข้าออก เครื่องอ่านที่ติดกับรถโฟล์คลิฟท์ และเครื่องอ่านแบบพกพา สามารถครอบคลุมได้ทุกจุด ของการขนถ่าย สินค้าจำนวนมาก และถูกนำไปใช้ในทางเดิน ระหว่างชั้นสินค้า และทุกที่ทั่วทั้งโรงงาน นอกจากนี้ ยังลดค่าใช้จ่ายการลงทุน ด้านอาร์เอฟไอดีที่จำเป็น ตลอดจนพวกเขายังสามารถส่งมอบข้อมูลโดยตรง ให้ถึงมือผู้ใช้ได้ ซึ่ง ช่วยป้องกันความผิดพลาด และยังสามารถบันทึกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ด้วย

กรณีตัวอย่าง

“รถ โฟล์คลิฟท์ ที่ใช้งานร่วมกับอาร์เอฟไอดี สำหรับผู้ใช้งานระดับล่าง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เกี่ยวกับเครื่องอ่านได้ โดยไม่ลดทอนความสามารถในการทำงานลง” อีริค มิเชลเซน /เอบีไอ รีเสิร์ช

ความ ยืดหยุ่น ของโครงสร้างพื้นฐานอาร์เอฟไอดี กำลังช่วยหลายบริษัทที่ใช้ระบบ EPC Gen 2 ตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า ช่วยให้การยืนยันการส่งสินค้า และระบบปรับปรุงสินค้าคงคลัง เป็นไปอย่างปกติ และยังเกิดแอพพลิเคชั่นตรวจสอบ และติดตามขั้นสูงขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบย้อนกลับทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้านเภสัชกรรมจำนวนมาก ได้ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี EPC และกฎระเบียบขององค์การอาหารและยาสหรัฐ ก็สนับสนุนการใช้อาร์เอฟไอดี ในการตรวจสอบย้อน กลับซัพพลายเชน เช่นกัน

กรณีตัวอย่าง

คณะ บริหารความมั่นคงทางสังคมสหรัฐ (SSA) ใช้ระบบอาร์เอฟไอดี ในคลังสินค้า เพื่อติดตามสินค้าคงคลัง และอำนวยความสะดวก ให้การขนส่งสินค้า ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น ระหว่างสำนักงานสาขา โดย SSA ปรับปรุงความสามารถในการผลิตได้ถึง 39% และประหยัดเงินได้มากถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี และยังคาดว่าจะประหยัดแรงงานได้เพิ่มขึ้น 70% เมื่อมีการปรับปรุง และขยายระบบเพิ่มเติมเต็มรูปแบบ

แนวคิดอื่นๆ ในด้านการนำอาร์เอฟไอดี มาใช้ในซัพพลายเชน กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก จากงานวิจัยบางชิ้นพบว่า จะมีการนำอาร์เอฟไอดีไปใช้ เพิ่มขึ้น ในด้านการจัดการสินทรัพย์ แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ ได้รับการจัดตั้งอย่างดี และให้มูลค่าทางธุรกิจที่ชัดเจน และเข้มแข็ง ดังนั้นจึงมีการนำไปใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น การจัดการสินทรัพย์ ยังส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบอาร์เอฟไอดีเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนากิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อผลประโยชน์ภายในองค์กรด้วย

RTLS: ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง

INTERMEC

ระบบ แสดงตำแหน่งในเวลาจริง (RTLS) ทำให้คุณสามารถขยาย เครือข่ายแลนไร้สาย ของคุณเข้าสู่ระบบการติดตามสินทรัพย์ ตัวผลักดันตลาดที่สำคัญคือ อุปกรณ์แสดงตำแหน่งไร้สายจากบริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งทำให้การติดตามสินทรัพย์ผ่านระบบแลนไร้ของบริษัท ซิสโก้ โดย อุปกรณ์ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายแลนไร้สาย สามารถถูกติดตามและระบุตำแหน่งได้ แอพพลิเคชั่นหนึ่งคือ การติดตามรถโฟล์คลิฟท์ผ่านทางคลื่นวิทยุของคอมพิวเตอร์ ที่ติดอยู่กับตัวรถของพวกเขา อุปกรณ์แสดงตำแหน่ง ไร้สาย และซอฟต์แวร์สนับสนุน สามารถติดตามตำแนห่งของวิทยุในเวลาจริง เพื่อสนับสนุนการเก็บแบบไดนามิก เส้นทาง เวลาที่ตรวจสอบ และการเก็บรวบรวมข้อมูล สำหรับกำลังการผลิต และการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ สินทรัพย์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สินค้าและสินทรัพย์ราคาแพงอื่นๆ หลายรายการสามารถถูกจัดหาให้ด้วยอุปกรณ์ RTLS สำหรับการตรวจสอบในเวลาจริง

Remote management: การจัดการระยะไกล

การ ใช้ระบบแลนไร้สาย เพื่อติดตามสินทรัพย์ของคลังสินค้า และโรงงาน เป็นตัวอย่างของการปรับใช้ ทรัพยากรไอทีให้เป็นประโยชน์ กับสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม อีกตัวอย่างคือ ระบบการจัดการระยะไกล ประสิทธิภาพสูง ได้รับการพัฒนาเฉพาะ เพื่อกำหนดค่า ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาเครื่องอ่าน และเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด อุปกรณ์อาร์เอฟไอดี คอมพิวเตอร์ที่ทนทาน และอุปกรณ์การเก็บ และสื่อสารข้อมูลอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยผู้ดูแลเครือข่ายโดยทั่วไป สามารถมองเห็น หรือควบคุมอุปกรณ์ระยะไกลเหล่านี้ได้ ไม่ครอบคลุม เนื่องจากสินทรัพย์ไอทีองค์กร และระบบการจัดการเครือข่ายถูกสร้างขึ้นมา เพื่อพีซี เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายทั่ว ไป และไม่ได้ระบุการกำหนดค่า และเงื่อนไขการใช้เฉพาะ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและประมวลผล ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม

INTERMEC

ต่อ ไปนี้คือ บางตัวอย่างที่อธิบายว่า ทำไมระบบการจัดการตามเป้าหมายโดยทั่วไป จึงจำกัดประสิทธิภาพด้านอายุใช้งาน และการ จัดการอุปกรณ์ ที่ใช้ในการดำเนินการด้านซัพพลายเชน

  • คอมพิวเตอร์ที่ทนทาน เปรียบเสมือนญาติสนิทขององค์กร ที่ต้องได้รับการปรับปรุงซอฟต์แวร์ และโปรแกรมซ่อมแซม ด้านความปลอดภัยเป็นระยะๆ และควรได้รับการตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจถึงความสอดคล้องกัน ในการกำหนดค่า และรุ่นซอฟต์แวร์
  • เครื่อง พิมพ์บาร์โค้ด และป้ายผนึกอัจฉริยะอาร์เอฟไอดี ต้องได้รับการปรับปรุงเป็นระยะๆ ด้วยแม่แบบป้ายผนึกใหม่ และรูปแบบบาร์โค้ดใหม่ และใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบเทอร์มัล ซึ่งบางครั้งต้องมีการปรับค่าความร้อน ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดมีภาษาคำสั่งเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ร่วมกับจอภาพการพิมพ์โดยทั่วไป รวมถึงแอพพลิ เคชั่นอื่นๆ ที่ผลิตขึ้นมา สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต และเลเซอร์ของสำนักงาน
  • เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี สามารถนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานได้ โดยเปลี่ยนการจ่ายกำลังไฟ และทำการปรับแต่ง อื่นๆ
ซอฟต์แวร์ จัดการอุปกรณ์ มีพร้อมให้ใช้งานแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งหมด รวมทั้งช่วยในการจัดหาการตรวจสอบในเวลาจริง และแจ้งให้ทราบหากมีอุปกรณ์ใดเข้าสู่ภาวะออฟไลน์ และถ้ามีการใช้ กับมาตรฐานระบบเปิด ยังสามารถเข้าถึงโซลูชั่นการจัดการเครือข่ายองค์กรของคุณได้ (เช่น Tivoli) บริษัทต่างๆ ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว เพื่อปรับปรุงความมีเสถียรภาพ และเวลาให้บริการในการผลิตที่สำคัญ การกระจายและ การดำเนินงานด้านการบริการ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังช่วยงานได้มาก เมื่อมีการอัพเกรดระบบ เนื่องจากผู้ดูแลระบบ สามารถใช้กำหนดค่าและติดตั้งซอฟต์แวร์ทางไกล และข้ามกลุ่มอุปกรณ์ได้ แทนที่จะต้องจัดการอุปกรณ์ แต่ ละตัวแยกต่างหาก คุณลักษณะเหล่านี้ ช่วยประหยัดเวลา และต้นทุนในการจัดการอุปกรณ์ได้อย่างมาก และยังรักษาระบบให้ทันสมัย ด้วยซอฟต์แวร์ และการปรับปรุงด้านความปลอดภัย ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Security: ความปลอดภัย

INTERMEC

ความ ปลอดภัยที่ เพิ่มขึ้น เป็นแนวโน้มและความต้องการของธุรกิจ ที่กำลังได้รับความนิยม ในการนำมาใช้ เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีซัพพลายเชน โดยคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ จะถูกล็อคไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า และข้อมูลอื่นๆ ได้ในกรณี ที่อุปกรณ์หายหรือถูกขโมย คอมพิวเตอร์ไร้สาย ที่ทนทานและอุปกรณ์เก็บรวบรวมข้อมูล ยังสนับสนุนความปลอดภัยชั้นนำหลายอย่าง ที่สอดคล้องกับระบบป้องกันเครือข่ายไร้สายองค์กร ได้แก่ 802.11i, 802.1x, WPA, WPA2, LEAP, FIPS-140, RADIUS Server, VPN และอื่นๆ โดยอุปกรณ์การเก็บรวบรวมข้อมูลไร้สาย ที่สนับสนุน Cisco Compatible Extensions (CCX) สามารถรวมอยู่ใน Cisco Unified Wireless Network และใช้ ประโยชน์ ด้านการจัดการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งสามารถเชื่อถือได้ และมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันแฮคเกอร์ และการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง การรับรองความถูกต้อง และการเข้ารหัส รวมถึงไฟล์วอลล์ ที่มีอยู่และอื่นๆ

บทสรุป

INTERMEC

องค์กร ธุรกิจ ต้องการความปลอดภัย ความชัดเจนแบบเรียลไทม์ และการปรับปรุงข้อมูล ต้องไม่หยุดอยู่เฉพาะที่ประตูสำนักงานเท่านั้น แต่ต้องครอบคุลมการดำเนินการด้านซัพพลายเชนทั้งหมด เพื่อให้ระบบข้อมูลเชื่อถือได้มากขึ้น จะ เห็นได้ว่าการพัฒนาในระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ระบบสื่อสารไร้สาย อาร์เอฟไอดี บาร์โค้ด และการเก็บรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ตลอดจนเทคโนโลยีสื่อสาร กำลังช่วยองค์กรธุรกิจขยายทัศนวิสัย และการควบคุมพื้นที่ดำเนิน งานของพวกเขาได้มากขึ้น บทความในตอนนี้ ให้บางตัวอย่าง ของวิธีที่องค์กรสามารถใช้ประโยชน์ แนวโน้มของเทคโนโลยีซัพพลายเชน โดยบริษัท อินเตอร์เมค กำลังช่วยหลายบริษัท และหน่วยงานรัฐบาลในทุกขนาด ปรับปรุงการผลิต บริการด้านการกระจายสินค้า และการดำเนินการซัพพลายเชนอื่นๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ 10 อันดับเหล่านี้ หากต้องการเรียนรู้ด้านการบริการ เทคโนโลยี และแนวโน้มล่าสุด ที่สามารถนำไปปรับใช้ เพื่อช่วยธุรกิจของคุณ กรุณาติดต่อบริษัท อินเตอร์เมค www.intermec.com

AMD เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Fusion” พร้อมพลังแห่งการผสมผสาน

บริษัท เอเอ็มดี เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับคอร์ปอเรต ภายใต้นิยาม “The Future is Fusion” โดยมุ่งที่การหลอมรวมเทคโนโลยีของเอเอ็มดี, ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ และความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อความต้องการของลูกค้าเข้าด้วยกัน กลายเป็นความสามารถและประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับการทำงาน การพักผ่อนภายในบ้าน และการเล่น

“Fusion คือการตอกย้ำความสามารถของเอเอ็มดีในการผสมผสานความต้องการของลูกค้า ความฝันและความปรารถนาของเรา ให้ออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่ ไนเจิล เดสเซา (Nigel Dessau) รองประธานอาวุโสและประธานฝ่ายการตลาด บริษัทเอเอ็มดี กล่าวและว่า ขณะที่นโยบายต่างๆ เป็นเสมือนบรรทัดฐานในการดำเนินงาน Fusion จะเป็นการเน้นเฉพาะจุด โฟกัสในเรื่องของการผสมผสานนวัตกรรมกับความร่วมมือ เพื่อประโยชน์แก่ผู้บริโภค มากกว่าจะเป็นแค่การรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

 

การเปิดตัวแบรนด์ “Fusion” ซึ่งตามด้วยแคมเปญระดับโลกต่างๆ นับเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของเอเอ็มดีที่ต้องการทำให้ภาพธุรกิจ ไมโครโปรเซสเซอร์และกราฟิกของเอเอ็มดีมีความชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้เอเอ็มดีได้เซ็นสัญญาขายธุรกิจ Digital TV กับบริษัทบรอดคอม (Broadcom) ซึ่งเป็นความพยายามส่วนหนึ่งเพื่อกลับมาโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ก็คือธุรกิจคอมพิวติ้งและกราฟิก

 

แบรนด์และแคมเปญใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อ การเปลี่ยนทิศทางของตลาด ผ่านการวิจัยและพัฒนาและการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ของ เอเอ็มดีที่ต้องใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ของเอเอ็มดีสำหรับการพัฒนาโซลูชั่นให้ เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคทั่วโลก

 

เราคาดหวังว่า แคมเปญ Fusion ใหม่ของเอเอ็มดีจะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในตลาด

ไมเคิล เมนเดนฮอลล์ (Michael Mendenhall) รองประธานอาวุโสและประธานฝ่ายการตลาด บริษัทฮิวเลตต์แพ็คการ์ด (HP) กล่าวและว่า เรา ยินดีอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเรากับเอเอ็มดี นั่นช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ที่ท้าทายของลูกค้าได้

 

หัวใจของแคมเปญนี้คือ คอนเซ็ปต์ของ “Fusion” พลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยการหลอมรวมคนและเทคโนโลยีของเอเอ็มดีกับของพาร์ตเนอร์เข้าด้วยกัน Fusion คือปรัชญาการดำเนินงานของเอเอ็มดีซึ่งเป็นการนำนวัตกรรมกับความร่วมมือมาผสม ผสานกัน และเป็นกระบวนการที่ทำให้เอเอ็มดีและพาร์ตเนอร์ของเอเอ็มดีสามารถสร้างสรรค์ เทคโนโลยีใหม่ เทคโนโลยีที่จะมาทำให้วิถีการดำเนินชีวิต, การทำงาน และการเล่นของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนไป

 

ตัวอย่างของ ”Fusion” ในโร้ดแม็ปผลิตภัณฑ์ของเอเอ็มดีคือ สถาปัตยกรรม Fusion - เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นความเหมือนจริงของภาพกราฟิกที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานพลังของ GPU และ CPU เข้าด้วยกัน บริษัทมองว่าแบรนด์ “Fusion” ใหม่ คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการหลอมรวมเทคโนโลยี, ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพาร์ตเนอร์, ความสามัคคีของพนักงาน และความหลากหลายของตลาดเข้าด้วยกัน

 

ในการทำงาน Fusion หมายถึงสมรรถนะสูงสุดของเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับกับปริมาณงานจำนวนมหาศาล พร้อมๆ กับตัวเลขสมรรถนะต่อวัตต์สูงสุด และความสามารถด้าน Virtualization”

เดสเซากล่าวและว่า ที่บ้าน Fusion  หมายถึงประสิทธิภาพในการการแชร์ดิจิตอลคอนเทนต์ที่หลากหลายบนจอภาพที่ติดตั้งกระจายอยู่ทั่วทั้งบ้าน และสำหรับการเล่น Fusion จะหมายถึง GPU เพื่อการประมวลผลกราฟิก 3 มิติตัวแรกที่เกิดจากการหลอมรวมระหว่าง AMD กับ ATI และเทคโนโลยีกราฟิกสำหรับ Microsoft® Xbox™ 360 และ Nintendo Wii”

 

เกี่ยวกับ Fusion พลังแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม

Fusion คือปรัชญาการดำเนินงานใหม่ของเอเอ็มดีที่นำนวัตกรรมต่างๆมารวมกัน ไม่ใช่แค่การรวมกันของเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์กับกราฟิก แต่ Fusion เป็นกระบวนการที่เอเอ็มดีและพาร์ตเนอร์ของเอเอ็มดีสามารถนำไปประยุกต์หรือ พัฒนาต่อจนกลายเป็นโซลูชั่นใหม่ได้ และโซลูชั่นนั้นจะเป็นโซลูชั่นที่มาทำให้วิธีการทำงาน วิถีการดำเนินชีวิต และวิธีการเล่นของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนไป ผ่านการผสมผสานอย่างกลมกลืนของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า และการก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม Fusion คือกระบวนการที่ทำให้ความต้องการของลูกค้าและความสามารถเชิงวิศวกรรมของเอ เอ็มดีสอดประสานกันได้อย่างสมบูรณ์ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่ http://fusion.amd.com

 

หลังจากเอเอ็มดีได้ขยับปรับแต่ง และจัดกระบวนทัพใหม่ทั้งในด้านการบริหารงานภายในและเรื่องของการพัฒนาซีพียู ก็มีข่าวเกี่ยวกับซีพียูของเอเอ็มดีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซีพียูที่ผลิตด้วยกระบวนการ 45 นาโนเมตรที่แฟนๆ เอเอ็มดีต่างเฝ้ารอ

เอเอ็มดีมีกำหนดการเปิดตัวซีพียู Phenom II X4 900 Series ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 45 นาโนเมตร และใช้ซ็อกเก็ตแบบ AM2+ ในวันที่ 8 มกราคม ปี 2009 หลังจากนั้นในราวๆ เดือนกุมภาพันธ์เอเอ็มดีจะทำการเปิดตัวซีพียู Phenom II ที่เป็นซ็อกเก็ต AM3 ตามมาอีกหลายรุ่นได้แก่ Phenom II X4 925 และ X4 910 โดยมีแคช L3 ถึง 6MB เลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วก็ยังมี Phenom II X4 810 และ X4 805 ที่มาพร้อมกับแคช L3 ขนาด 4MB

ส่วนซีพียูแบบ Triple-Core ก็มีออกมาในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน โดยจะประกอบด้วย Phenom II X3 720 และ X3 710 ซึ่งมีแคช L3 ขนาด 6MB

หลังจากนั้นในเดือนเมษายน 2009 เอเอ็มดีก็จะเปิดตัวซีพียู Athlon รุ่นใหม่โดยจะมีอยู่สองซีรี่ส์ด้วยกันคือ Athlon X4 600 Series ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Quad-Core และ Athlon X3 400 Series ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Triple-Core

ถัดมาในเดือนมิถุนายน 2009 เอเอ็มดีก็จะเปิดตัวซีพียู Athlon รุ่นเล็กสุดแบบ Dual-Core นั่นก็คือ Athlon X2 200 Series และแน่นอนว่าเป็นซีพียูที่ผลิตด้วยกระบวนการ 45 นาโนเมตร เช่นกัน

เมื่อดูจากรายงานข่าวนี้แล้ว เฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2009 นี้ เราก็อาจจะได้เห็นสงครามของซีพียูระอุขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้

หลังจากที่เราได้รายงานข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับซีพียูของเอเอ็มดีในปี 2009 ไปแล้ว มาในวันนี้ทางเว็บไซต์ HKEPC.COM ก็ได้ทำการรายงานเรื่องราวของซีพียู Phenom II ในปีหน้าด้วยเช่นกัน และได้มีการนำเสนอข้อมูลของซีพียูหลายรุ่นในรูปแบบของตารางที่ดูได้ง่าย และเห็นความเป็นไปของซีพียูจากค่ายเอเอ็มดีในปีหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


สำหรับข้อมูลในตารางแรกนั้นทางเว็บไซต์ได้รายงานให้เห็นว่า Model Number ของ Phenom II นั้นมีถึง 5 หลัก แต่พอทางอินเทลได้เปิดตัว Core i7 ที่มีตัวเลขของรุ่นเพียง 3 หลักออกมา ทางเอเอ็มดีก็เลยมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เทียบรุ่นกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการตลาดที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว


ส่วนตารางที่สองนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลของซีพียูที่จะมาในปีหน้าของเอเอ็มดี ซึ่งถ้าดูในตารางนี้จะเห็นได้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เอเอ็มดีได้วางแผนการเปิดตัวซีพียูที่ใช้ซ็อกเก็ตแบบ AM3 มากถึง 13 รุ่นเลยทีเดียว

CES 2009 Intel

[CES 2009] อินเทลพูดถึงความเร็วของ USB 3.0


จากงาน CES 2009 อินเทลได้เริ่มพูดถึงสถานะของ SuperSpeed USB หรือ USB 3.0 และพูดถึงความเร็วของมันว่ามันเร็วขนาดไหน

สำหรับตัว SuperSpeed USB นั้นจะมีความเร็วที่เพิ่มขึ้นอีกมากถึง 10 เท่าจาก USB 2.0 หากเทียบความเร็วในการย้ายไฟล์หนัง HD ขนาด 25GB จะใช้เวลาเพียงแค่ 70 วินาทีจากปัจจุบันบน USB 2.0 ที่ใช้เวลาประมาณ 14 นาที

ย้ายไฟลหนัง HD ขนาด 25GB:

  • USB 1.0: 9.3 ชั่วโมง
  • USB 2.0: 13.9 นาที
  • USB 3.0: 70 วินาที

AMD

AMD ปล่อยซีพียูใหม่ แต่ยังตามหลัง Core i7 อยู่


AMD ได้ปล่อยซีพียู 45nm Phenom II ออกมาแล้ว แต่หลังจากที่ The Tech Report ได้นำมาทดสอบด้วย Benchmark ต่าง ๆ แล้วพบว่าความสามารถทั้งหลายนั้นใกล้เคียงกับชิปของอินเทลมาก

หากเทียบ 2.8GHz และ 3GHz Phenom II ก็พอจะเทียบกับ Core 2 Quad จากอินเทลรุ่นที่ราคาเท่า ๆ กันได้เลย แต่ทั้งหมดก็ยังตามหลังอินเทล Core i7 อยู่ดี

ที่มา - Slashdot

กูเกิล โฟน 3G

ไชนา โมบายล์ : ใกล้ความจริงที่จะนำ กูเกิล โฟน 3G ออกจำหน่ายได้แล้ว


รายงานข่าวจากไชนา โมบายล์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากแล้ว ที่จะนำสมาร์ทโฟนของกูเกิล ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ออกจำหน่ายแล้ว โดยตัวเครื่องซึ่งจะใช้ชื่อว่า “โอโฟน” (OPhone) นั้นจะใช้งานบนโครงข่าย TD-SCDMA 3G ใหม่ของบริษัท

ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่า ไชนา โมบายล์ ให้ความสนใจที่จะนำสมาร์ทโฟน ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เข้ามาให้บริการในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจีน ทว่าติดปัญหาที่ว่า จะต้องพัฒนาระบบปฏิบัติการให้เป็นภาษาจีนก่อน ซึ่งคาดว่าจะนำออกจำหน่ายได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้

สำหรับผู้ผลิตตัวเครื่องโอโฟนให้กับไชนา โมบายล์ นั้นมีข่าวลือว่าบริษัท เลโนโว โมบาลย์ จะได้รับงานชิ้นนี้

ที่มา - cellular-news

TrueMove&iPhone 3G

ข่าวลือ: ไอโฟนรุ่นต่อไปจะใช้ CPU มัลติคอร์

ZDNet รายงานว่าเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.0 สำหรับไอโฟนนั้นจะเพิ่มการสนับสนุนหน่วยประมวลผล Quad-Core ซึ่งจะมีอยู่ในตัวฮาร์ดแวร์ของไอโฟนรุ่นถัดไป แม้ว่าแอปเปิลจะไม่ได้ปล่อยข่าวหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเฟิร์มแวร์ไอโฟนเวอร์ชั่น 3.0 เลยก็ตาม แต่ MacRumors ได้ออกมายืนยัน (อีกตามเคย) ว่าได้ยินข่าวเรื่องนี้เหมือนกันจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้

ในขณะเดียวกันนี้ Imagination Technologies ได้ประกาศ GPU มัลติคอร์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในไอโฟน โดยในฐานะที่แอปเปิลเป็นหนึ่งในผู้ที่ลงทุนกับ Imagination Technologies แอปเปิลสามารถเข้าไปเสนอแนะและทำการถ่ายทอดสเปคและข้อมูลได้อย่างง่าย สำหรับตอนนี้ ไอโฟนและไอพ็อดทัชรุ่นปัจจุบัน กำลังใช้งาน GPU รุ่น PowerVR ของบริษัทนี้อยู่เช่นกัน

สำหรับ CPU ใหม่ของไอโฟน คาดว่าน่าจะเป็นหน่วยประมวลผลมัลติคอร์ ARM Cortex A9 โดย CPU ตระกูลนี้นั้น เป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานเหนือชั้นกว่า Atom จากอินเทลอยู่พอสมควร

ที่มา - MacRumors

TrueMoveปรับโปรโมชั่นขาย iPhone 3

หลังจากที่ TrueMove ได้ประกาศขาย iPhone 3G แบบติดสัญญามาได้สักพักแล้ว กระแสตอบรับหลายคนอื้ออึงกันไปใหญ่ มาวันนี้ TrueMove ได้เพิ่มโปรโมชั่นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าแล้วครับ

iPhone 3G 8GB โปรโมชั่น Basic สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 23,275 บาท พร้อมติดสัญญารายเดือน 12 เดือน รายเดือนเดือนละ 599 บาท หรืออีกทางเลือก ลูกค้าทรูสามารถซื้อเครื่องเปล่าได้ในราคา 24,500 บาท ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7

iPhone 3G 16GB โปรโมชั่น Basic สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 27,075 บาท พร้อมติดสัญญารายเดือน 12 เดือน รายเดือนเดือนละ 599 บาท หรืออีกทางเลือก ลูกค้าทรูสามารถซื้อเครื่องเปล่าได้ในราคา 28,500 บาทราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7

เท่ากับว่าเราสามารถซื้อเครื่อง iPhone 3G ที่ไม่ติดสัญญาแล้วครับ และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของ TrueMove บอกว่าสามารถนำเครื่องไปใช้กับระบบอื่นได้

ที่มา - TrueMove

ลังจากถูกวิจารณ์ว่าแพงเกินไปสำหรับ 4 โปรโมชันที่ทรูมูฟเตรียมไว้เพื่อจำหน่ายไอโฟนในประเทศไทย ล่าสุดทรูมูฟปรับเพิ่มแพ็กเกจพิเศษบนเว็บไซต์ ระบุว่า”ลูกค้าทรู”จะมีสิทธิซื้อไอโฟนเครื่องเปล่าโดยไม่มีสัญญาผูกมัด ในราคาเริ่มต้นที่ 24,500 บาท หรือเสียค่าเครื่อง 23,275 บาทผูกสัญญาปีเดียว

“ลูกค้าทรูซื้อเครื่องเริ่มต้นเพียง 23,275 บาท พร้อมแพคเก็จใหม่ แพคเก็จเบสิค 599 บาทต่อเดือน และรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี (1 คนรับ 2 สิทธิ์)” เนื้อความบนเว็บไซต์ทรูระบุ

23,275 บาทคือราคาไอโฟน 8GB พร้อมแพคเก็จโทร 300 นาที 599 บาทนาน 12 เดือน (รุ่น 16GB ราคา 27,075 บาท) หากลูกค้าทรูไม่ต้องการผูกสัญญา 1 ปี ก็สามารถซื้อเฉพาะเครื่องในราคา 24,500 บาท (16GB ราคา 28,500 บาท) จากการสอบถามทรูมูฟพบว่า ลูกค้าที่ได้สั่งจองแพคเก็จเดิมไปแล้ว ทรูมูฟจะติดต่อกลับไปเพื่อแจ้งรายละเอียดแพคเก็จใหม่ รวมถึงลูกค้าที่จองแล้วสามารถโทรเข้าไปเปลี่ยนแพคเก็จด้วยตนเองได้ที่ 08 2000 333 กด 2

ประชา สัมพันธ์ของทรูระบุว่า “ลูกค้าทรู”ที่สามารถใช้บริการแพคเก็จดังกล่าวจะต้องเป็นลูกค้าที่ใช้บริการ ในเครือข่ายของทรูประเภทรายเดือน ทั้งทรูอินเทอร์เน็ต ทรูมูฟ และทรูไวไฟ ฯลฯ ลูกค้าพรีเพดหมดสิทธิ์ ยืนยันว่าไอโฟนที่ทรูจำหน่ายสามารถนำไปใช้งานกับโอเปอเรเตอร์ค่ายใดก็ได้โดย ไม่ต้องปลดล็อค ลูกค้า 1 คนสามารถใช้ได้ 2 สิทธิเท่านั้น

ประชาสัมพันธ์ทรูไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดโปรโมชันใหม่ในการจำ หน่ายไอโฟนขณะนี้ โดยระบุว่าทรูจะแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มกราคม

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

ค่ายSONY

โซนี่เปิดตัว Walkman จอสัมผัสสู้ iPod Touch

จากข่าวเก่าโดยคุณ mk: โซนี่เตรียมเปิดตัว Walkman จอสัมผัสตัวแรก วันนี้โซนี่ได้เปิดตัว alkman รุ่นดังกล่าวออกมาแล้วครับ โดยใช้ชื่อว่า NWZ-X1000 และมีคุณสมบัติคร่าวๆ คือ

  • จอภาพแบบสัมผัส และเป็น OLEDมีทั้ง 16GB และ 32GB
  • มีเว็บเบราเซอร์WiFi
  • มีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (Noise Cancellation) ซึ่งไม่ค่อยพบในเครื่องเล่น MP3
  • ยังไม่มีข่าวยืนยันว่าจะสามารถเปิดวิดีโอจาก YouTube ได้หรือไม่

สำหรับราคายังไม่ประกาศ หลายคนคิดว่าน่าจะประมาณ 14,000 บาท (รูปสามารถดูได้ที่ที่มาครับ)

ที่มา: Gizmodo
Update: ที่มาหายไปแล้ว เอารูปมาให้ดูเลยแล้วกัน

[CES 2009] โซนี่เปิดตัว Walkman, VAIO P อย่างเป็นทางการ

 tags: 

ใน CES 2009 ความสนใจไปอยู่ที่ Keynote ของยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่เสียเยอะ (อาจเป็นเพราะข่าวของ Walkman จอสัมผัส และ VAIO P ที่ออกมาก่อนหน้านี้)

  • Walkman NWZ-X1000 ที่ใช้จอสัมผัสแบบ OLED ตามข่าวเก่า รูปเดิมแต่แบบชัดๆ ดูได้จาก Gizmodo ส่วน Engadget มีภาพตัวเครื่องของจริงที่ไม่ใช่ภาพโปรโมท แต่ค่อนข้างเบลอ
  • Walkman W Series ที่ตัวเครื่องรวมกับหูฟังไปเลย ไม่มีจอภาพ มีความจุ 2GB เล่นได้นาน 12 ชั่วโมง ขายราคา 70 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,500 บาท) (Gizmodo) ภาพดูด้านใน
  • มือถือแบรนด์ Sony Ericsson รุ่นใหม่ C510 และ W508 ภาพด้านใน
  • กรอบรูปดิจิทัล DPF-X1000 ($300) และ DPF-V1000 ($250) ขนาด 10 นิ้ว มาพร้อม Bluetooth และพื้นที่เก็บข้อมูล 2GB วางขายเดือนมีนาคม (Engadget,Gizmodo)
  • กล้อง Handycam HDR-series ความละเอียด 1080p มาพร้อมกับ GPS และแผนที่จากบริษัท Navteq (Engadget)
  • กล้องวิดีโอขนาดเล็ก Webbie HD น่ารักทีเดียว ดูภาพได้ด้านในหรือที่ Engadget
  • กล้องถ่ายภาพ Cyber-shot DSC-W220 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับฟีเจอร์ Intelligent Scene Recognition และ Dynamic Range Optimize ที่เคยอยู่แต่ในรุ่นสูงๆ (EngadgetGizmodo)
  • VAIO P วางขายวันพรุ่งนี้บนเว็บไซต์ SonyStyle.com และมีขายตามร้านทั่วไปภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้
  • ทีวี Bravia บางรุ่นสนับสนุน Yahoo! Widget (EngadgetGizmodo) บางรุ่นประหยัดไฟ ใช้พลังงาน 0 วัตต์เมื่ออยู่ในโหมด standby (EngadgetGizmodo) ส่วนข่าวเกี่ยวกับ OLED จะแถลงข่าวแยกต่างหากในวันพรุ่งนี้

หมายเหตุ: ภาพแบบชัดๆ ของผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในวันนี้หลายตัว มีให้ดูบนเว็บไซต์ Sony Style แล้ว

ที่มา - Engadget: Live from Sony’s CES press event

Walkman W Series

w508

c510

Webbie

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

โตชิบ้าเปิดตัว External Hard Drive ขนาด 500 กิ๊กกะไบท์

โตชิบ้าเปิดตัว External Hard Drive ขนาด 500 กิ๊กกะไบท์

image/toshiba.gif

เมื่อ วันอังคารที่ผ่านมา โตชิบ้าได้ทำการเปิดตัวแนะนำ External Hard Drive รุ่นขนาดความจุ 500 กิ๊กกะไบท์ สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายในการสำรองข้อมูลที่มีความจุสูง

โดยฮาร์ดดิสก์ นี้ จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางพอร์ท USB 2.0 ซึ่งขนาดความจุ 500 กิ๊กกะไบท์นี้ จะสามารถบันทึกข้อมูลเป็นไฟล์รูปภาพได้กว่า 142,000 รูป หรือ ไฟล์เพลงกว่า 131,000 ไฟล์ หรือ ไฟล์ดีวีดีแบบธรรมดาที่มีความยาวกว่า 222 ชั่วโมง หรือ ไฟล์ดีวีดีความละเอียดสูงที่มีความยาวกว่า 58 ชั่วโมง โดย Manuel Camarena ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล่าวว่า ต่อจากนี้ไป ผู้ใช้จะไม่ต้องกังวลกับปัญหาเรื่องเนื้อที่ของหน่วยความจำสำรองไม่พอ โดยสามารถใช้หน่วยความจำสำรองนี้ สร้างเป็นคลังเก็บเพลงหรือไฟล์วีดีโอได้อย่างสบายๆ และสามารถเรียกดูข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางช่องต่อ USB ซึ่งจะรองรับได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP, Windows Vista และ Mac OS X 10.3.9 หรือเวอร์ชั่นต่ำกว่า โดยผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ว ผ่านทางเวบไซต์ของโตชิบ้าและร้านตัวแทนจำหน่าย โดยจะมีราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 180ดอลล่าร์สหรัฐฯ

Google เปิดตัว Picasa สำหรับคอมพิวเตอร์ Mac

Google เปิดตัว Picasa สำหรับคอมพิวเตอร์ Mac

image/mac_picasa.jpg

ภาย หลังจากที่ Google ได้ทำการส่งโปรแกรม Picasa สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux มาแล้วนั้น ล่าสุดทางต้นสังกัดได้ออกมาประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะทำการเปิดตัวซอฟท์แวร์นี้ในเวอร์ชั่นสำหรับคอมพิวเตอร์ Mac พร้อมกับเริ่มทำการส่งเวอร์ชั่น beta ออกมาให้ได้ทดลองใช้กันแล้ว

โดยซอฟท์แวร์ Picasa สำหรับระบบปฏิบัติการ Mac OS X นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ Mac สามารถตกแต่งแก้ไขรูปภาพ รวมถึงสามารถอัพโหลดและแชร์รูปภาพได้เหมือนกับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux ซึ่งทาง Google ผู้พัฒนาได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี โดยสำหรับเวอร์ชั่น Mac นี้ จะมีฟังก์ชั่นการทำงานคล้ายๆกับ Picasa 3 สำหรับ Windows พร้อมกับเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไปอีก 2 ฟังก์ชั่นด้วยกัน ได้แก่ ฟังก์ชั่น geotagging และความสามารถในการปริ้นรูปภาพ โดยผู้ใช้จะสามารถแก้ไขและปริ้นรูปภาพ รวมถึงการอัพโหลดรูปภาพ, การสร้างอัลบั้มภาพและการนำรูปภาพมาตัดต่อเป็นคลิปวีดีโอของตนเอง โดยสามารถติดแท็กรายชื่อและเรตติ้งที่รูปภาพนั้นๆได้อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดกลุ่มผู้เข้าชมรูปภาพให้จำกัดเฉพาะเพื่อนหรือสมาชิก เท่านั้นได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่จะใช้โปรแกรมนี้ได้ จะต้องมีระบบปฏิบัติการ Mac OS X 10.4 Tiger หรือสูงกว่า

ชุดโปรแกรม iLife 09 และ iWork 09 ใหม่


เปิดชีวิตการทำงานให้สนุกยิ่งขึ้น กับชุดโปรแกรม iLife 09 และ iWork 09 ใหม่



iLife 09 ชุดโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับการทำงานดิจิตอลแบบง่ายๆ ในด้านต่างๆ ไม่ว่จะเป็นเพลง หนัง รูป หรือเว็บ โดยในเวอร์ชั่นนี้ ได้มีการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ ลงไป ให้สามารถทำงานได้หลากหลาย และตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างลงตัวมากขึ้




iPhoto
โดยในชุดโปรแกรม iPhoto ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ลงไปมากมาย เช่น การหาภาพอื่นๆ โดยการใช้ใบหน้าบุคคลเป็นตัวหา ซึ่งจะเหมาะกับการหาภาพในกรณีที่มีภาพที่ถ่ายเป็นหมู่คณะเยอะๆ และต้องการใช้งานภาพเหล่านั้นหรือหาภาพที่มีตัวเราอยู่ในรูปนั้น ก็จะทำให้หาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ Places ที่สามารถใช้งานรวมกับกล้องที่มี GPS หรือสามารถปักหมุดลงบนแผนที่ เพื่อให้ทราบว่ารูปที่ไปถ่ายมานั้นตั้งอยู่ที่ไหน และยังเพิ่มความสามารถในการตกแต่งภาพให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น




iMovie
ด้วยความสามารถเวอร์ชั่น iLife 09 ใหม่นี้ สามารถ Drag and Drop เพื่อ editing แก้ไขหนังได้ง่ายขึ้น และรอยต่อของแต่ละช่วงทำได้อย่างแนบเนียนมากยิ่งขึ้น แล้วยังมี Theme Titles, Transitions, และ Effects รูปแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณรังสรรค์ผลงาน Movie ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และยังสามารถปรับ ความคมชัดของ Movie ที่ถ่ายมาให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งด้วย




GarageBand
ในเวอร์ชั่น iLife 09 นี้ GarageBand สามาถให้คุณเรียนรู้การแต่งเพลงเเละเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วยฟีเจอร์ครูฝึกส่วนตัว โดยสามารถเล่นเครื่องดนตรีฝึกฝีมือไปพร้อมกับศิลปินที่คุณเป็นคนเลือกเอง และบทเรียนสำเร็จรูปที่จะฝึกคุณให้การเป็นมืออาชีพ นอกจากนั้นยังเพิ่ม ฟีเจอร์ใหม่ในการเล่นกีตาร์ ซึ่งจำลองออกมาให้เหมือนกับเล่นของจริงมากยิ่งขึ้น




iWeb
ด้วยรูปแบบของ Theme ที่หลากหลายมากขึ้นที่สามารถเครื่องมือต่างๆ ลงหน้า template ได้อย่างอิสระ และสามารถแอดรูป หนัง เพลงและอื่นลงไปใน template ได้ในรูปแบบที่ง่ายขึ้น และสามารถแอด interactive widgets ลงไปได้ด้วย และใช้งานรวมกับ Mobile me ได้เป็นอย่างดี



นอกจากนี้ชุดโปรแกรมทำงานด้านเอกสาร iWork ก็ได้ทำการอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น iWork 09 ที่ตอบสนองทุกการใช้งานได้ลงตัวมากขึ้น



Page
ในเวอร์ชั่นนี้สามารถ ดูเอกสารการทำงานแบบ Full screen ได้เพื่อช่วยให้การพิมพ์งานเอกสารและตรวจสอบคำผิดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ผู้ใช้สร้าง Outline รูปแบบเอกสารได้อย่างลงตัว ด้วยไอเดียใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร และรองรับรูปแบบMathType และ EndNote ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมด้วย Template ที่มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้นตอบสนองงานเอกสารทุกรูปแบบ และที่สำคัญสามารถเลือกส่งเอกสารผ่านเมล์เป็นไฟล์ Word โดยไม่ต้อง Export




Number
โปรแกรมจัดการเอกสารในรูปแบบตาราง ในเวอร์ชั่น 09 นี้ผู้ใช้จะพบกับการจัดการตารางต่างๆ ได้ง่าย ซึ่งสามารถทำให้จัดรูปแบบได้อย่างลงตัวด้วย Template ที่หลากหลาย รูปแบบกราฟและตารางที่เหมาะกับงานรูปแบบต่างๆ และสามารถคำนวนค่ารวมค่าๆ รวมทั้งการใส่สูตรทางการเงิน เพื่อให้คิดตัวเลขต่างๆ ทางการเงินได้ถูกต้องมากขึ้น และสามารถเลือกส่งเอกสารผ่านเมล์เป็นไฟล์ Excel ได้โดยไม่ต้อง Export เช่นเดียวกัน




Keynote
โปรแกรมพรีเซ็นเตชั่น สำหรับเสนองาน โดยในเวอร์ชั่น 09 นี้ สามารถลากรูปบนสไลด์ได้อย่างง่ายด้าย และมีเอฟเฟกสำหรับตัวอักษรที่มากขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถออกแบบ charts ในรูปแบบ 3D ได้อย่างลงตัว และยังสามารถใช้ iPhone หรือ iPod touch ในการควบคุมพรีเซ็นเตชั่น ที่สำคัญสามารถเลือกส่งเอกสารผ่านเมล์เป็นไฟล์ PowerPoint ได้โดยไม่ต้อง Export
ที่มาMACDD.COM